จะเป็นไรไหมหากโดนฟ้องบัตรเครดิตไม่ไปศาล มีอายุความกี่ปี เช็คเลย

เป็นหนี้บัตรเครดิต ถ้าโดนฟ้องบัตรเครดิตไม่ไปศาล ได้ไหม จะมีผลอย่างไร

พอโดนฟ้องบัตรเครดิตไม่ไปศาล ทราบหรือไม่ว่าจะมีผลอย่างไร วันนี้เราจึงนำข้อมูลต่าง ๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่โดนฟ้องบัตรเครดิตมาฝากกัน

หนี้บัตรเครดิตโดนฟ้องบัตรเครดิตไม่ไปศาล คดีบัตรเครดิตศาลตัดสินแล้วมีอายุความกี่ปี

          หนี้บัตรเครดิต เป็นภาระหนี้ที่จะเกิดเป็นจากการไม่สามารถชำระหนี้ได้ และถูกเจ้าหนี้ส่งเรื่องโดนฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นคดีแพ่ง และจะโดนหมายศาลบัตรเครดิต และถ้าโดนฟ้องบัตรเครดิตไม่ไปศาล  โปรดทราบว่าหนี้บัตรเครดิตรวมถึงบัตรเครดิตที่กดเงินสดได้จะมีอายุความ 2 ปี นับจากวันผิดนัดชำระหรือวันที่ชำระหนี้ครั้งสุดท้าย

สิ่งควรทำหลังโดนหมายศาลบัตรเครดิตจะต้องติดต่อเจรจากับทางสถาบันการเงิน ซึ่งหากเวลาผ่านไปแล้วยังตกลงกันไม่ได้ หรือไม่ยอมติดต่อเจ้าหนี้ เจ้าหนี้จะส่งหนังสือทวงถามหนี้เตือนลูกหนี้ให้ชำระหนี้ให้เรียบร้อย หรือมาไกล่เกลี่ยกันก่อน แต่ยังเพิกเฉยหลังได้ หมายศาลนัดไกล่เกลี่ยเรื่องบัตรเครดิตแต่ไม่ได้ไป ไม่ดำเนินการใด ๆ เลย เจ้าหนี้จึงจะส่งเรื่องฟ้องดำเนินคดีเพื่อบังคับชำระหนี้ต่อไป

โดนฟ้องบัตรเครดิตไม่ไปศาล เป็นหนี้บัตรเครดิตโดนฟ้องศาลไหน

          เนื่องจากในประเทศไทยมีศาลอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ แต่เมื่อถูกเจ้าหนี้ฟ้องจะได้รับหมายศาล ซึ่งระบุไว้ว่าลูกหนี้ต้องไปที่ศาลไหน โดยทั่วไปจะเป็นศาลที่ลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล หรือศาลที่อยู่ในเขตที่ตั้งของสถาบันการเงินที่ลูกหนี้ได้ไปรับบัตรเครดิต แล้วถ้าโดนฟ้องบัตรเครดิตสิ่งที่ต้องทราบมีอะไรบ้างโดนฟ้องบัตรเครดิตไม่ไปศาล ได้ไหมสิ่งที่ลูกหนี้จำเป็นต้องทำมีดังต่อไปนี้

  • อ่านรายละเอียดในหมายศาล ทั้งหมายเลขคดี ศาลที่ฟ้อง และพิจารณาว่าได้ก่อหนี้ขึ้นจริงตามที่ระบุไว้หรือไม่ มีหนี้สินรายการใดที่ไม่ตรงกับสัญญาหรือไม่
  • พิจารณาว่าเจ้าหนี้ฟ้องภายในระยะเวลาหรืออายุความที่กฎหมายกำหนดหรือไม่

โดนฟ้องบัตรเครดิตไม่ไปศาล จะเสียสิทธิอะไรบ้าง

         หลัง โดนหมายศาลบัตรเครดิต ลูกหนี้ได้รับในฐานะจำเลยเท่ากับว่าศาลต้องการเชิญลูกหนี้เข้าไปให้ข้อเท็จจริง เพื่อจะได้ไม่ฟังความฝ่ายเดียว ถึงแม้ว่าการจะไปหรือได้รับหมายศาลแล้วไม่ไปนั้นจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ถูกหมายศาลเรียก แต่ทางที่ดีก็ควรไปศาลเพื่อใช้สิทธิในการโต้แย้งหรือขอประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่าการโดนฟ้องบัตรเครดิตไม่ไปศาล เพราะการไม่ไปศาลปัญหาที่จะตามมาจะทำให้เจ้าหนี้สามารถขอให้ศาลพิจารณาคดีต่อไปฝ่ายเดียวได้ ดังนั้นถ้าลูกหนี้ไม่ไปศาลจะเสียสิทธิในการต่อสู้ และหมดโอกาสเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ ส่งผลให้ศาลต้องพิพากษาตามคำฟ้องและเหตุผลของเจ้าหนี้เพียงฝ่ายเดียว และมักต้องชำระหนี้เต็มจำนวน หรือชำระหนี้ที่เกินกว่าตัวเองควรต้องชำระ ซ้ำร้ายอาจถึงขั้นถูกยึดทรัพย์มาขายทอดตลาดเลยก็เป็นได้

          สิ่งหนึ่งที่อยากแนะนำกคือ แม้ลูกหนี้จะโดนฟ้องแล้วก็ยังสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ และทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลซึ่งจะเป็นการดีกว่าถ้าตัดสินใจไปตามนัด  แต่หากลูกหนี้โดนฟ้องบัตรเครดิตไม่ไปศาล หรือไม่สามารถตกลงกันได้ หรือลูกหนี้ผิดสัญญา ศาลจะสั่งบังคับคดีลูกหนี้ และเข้าสู่กระบวนการสืบทรัพย์ เพื่อยึดทรัพย์และอายัดทรัพย์ของลูกหนี้ต่อไป  และทางที่ดีควรเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ถึงแนวทางการชำระหนี้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการยึดทรัพย์ในที่สุด